ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย

21 – 25 มีนาคม 2559

คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ในวันพุธที่ผ่านมา โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากแรงสนับสนุนการใช้จ่ายของภาครัฐ การท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นในบางกลุ่มธุรกิจ แต่ในภาพรวมมีสัญญาณอ่อนแรงลงหลังจากผลชั่วคราวของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายหมดลง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้ายังหดตัวสูงและมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก และปัญหาความสามารถในการแข่งขันของไทย ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการประเมินว่าแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่า ที่ประเมินไว้เดิม แต่เห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ผ่อนปรน และควรรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย (Policy Space) จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางถึงยาวปรับเพิ่มขึ้น 1-4 bps เนื่องจากนักลงทุนสถาบันขายทำกำไรและสอดคล้องกับตลาดพันธบัตรของสหรัฐที่ปรับขึ้น 4-5 bps หลังจากมีความเห็นของผู้ว่าเฟด 3 ท่านที่มองว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนเมษายนนี้ สรุปปริมาณการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลไทยในรอบสัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8.3 พันล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นพันธบัตรอายุมากกว่า 1 ปีประมาณ 7 พันล้านบาท

ทางด้านการประมูลพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น ตั๋วเงินคลังอายุ 28 วันและ 93 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.31568% และ 1.32069% ต่อปี ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 14 วัน 91 วัน และ 182 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.36043%, 1.32709% และ 1.32805% ต่อปี ตามลำดับ โดยรวมปรับลดลงประมาณ 4-5 bps ยกเว้นรุ่น 14 วันที่ปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากจัดประมูลในวันศุกร์หลังทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินแล้ว

deb-21mar