ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 1 – 5 สิงหาคม 2559

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ต่อเนื่องตามคาดและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ตามรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนในภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น แต่การลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกสินค้ายังคงหดตัวตามเศรษฐกิจเอเชียที่ชะลอลงมากกว่าคาด ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวอยู่ในระดับต่ำเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน อาทิ ความไม่แน่นอนภายหลังการลงประชามติในสหราชอาณาจักร (Brexit) ปัญหาภาคการเงินในยุโรป และพัฒนาการทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าในระยะต่อไป ในขณะที่ความเสี่ยงในภาคการเงินจีนยังมีอยู่

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของอังกฤษ (BOE) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.25% และเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินซึ่งจะช่วยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ค่าเงินปอนด์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลง ในขณะที่ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาในคืนวันศุกร์ คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกรกฏาคมเพิ่มขึ้นถึง 255,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนกลับมาคาดหวังถึงโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่เร็วขึ้นอีกครั้ง

สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยรับข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและอังกฤษ จึงทำให้อัตราผลตอบแทนปรับลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะรุ่นอายุประมาณ 7-20 ปี ลดลง 0.06-0.09% ต่อปี ตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 30.1 พันล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นพันธบัตรอายุไม่เกิน 1 ปีประมาณ 27.7 พันล้านบาท

thai-fixed-1-5-aug