ตลาดการเงินในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนในตลาดยังเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ แม้ว่าจะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ทั้งสร้างความผิดหวังหรือตัวเลขที่แสดงการเติบโต เช่น ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.56 แสนตำแหน่งซึ่งน้อยกว่าที่คาด / อัตราการว่างงานขยับขึ้นเป็น 5%, ยอดผู้เข้ารับสวัสดิการการว่างงานใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 246,000 คน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้และถือเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 42 ปี เป็นต้น แต่การแสดงท่าทีของสมาชิกในคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FED) ที่พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ รวมถึงการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ของเดือนก่อนหน้าที่ระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยที่ช้าเกินไปจะสร้างความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคต กลับมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดมากกว่า ดังนั้น US Treasury Yield จึงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยรุ่น 10 ปีแตะที่ระดับ 1.81% ในวันศุกร์
จากปัจจัยภายนอกดังกล่าว ประกอบกับความผันผวนของตลาดหุ้นไทยอันเนื่องมาจากเหตุการณ์สำคัญภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ขายทั้งหุ้นและพันธบัตร โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิพันธบัตรอายุสั้นกว่า 1 ปีต่อเนื่องทุกวันรวมเป็นจำนวนเกือบ 27 พันล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรอายุมากกว่า 1 ปีจำนวน 8.8 พันล้านบาท รวมขายสุทธิประมาณ 35.5 พันล้านบาท ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าไปแตะระดับ 35.8 และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านตั้งแต่ -0.03% ถึง +0.11%