ภาวะตลาดหุ้นไทย (13-16 ธันวาคม 2559)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สามของเดือนธันวาคม SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,514-1,531 Sideway Down จากปัจจัยหลักของการประชุม FOMC ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 0.25-0.50% เป็น 0.50-0.75% และ Primary Credit Rate จาก 1% เป็น 1.25% นอกจากนี้ ในการประชุมนั้น Fed ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2017 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง จึงส่งผลกระทบต่อกระแส Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้งหนึ่ง โดยขายสุทธิติดต่อกันตลอดทั้งสัปดาห์ยอดรวมทั้งสิ้น 6.4 พันล้านบาท และจากการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าที่คาดการณ์นั้น ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าจนทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 13 ปี ที่ 102.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.34% WoW ซึ่งสวนทางกับราคาทองคำที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ $1,133.3 ต่อ ทรอยออนซ์ ลดลง 2.17% WoW อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินของกองทุน LTF/RMF ยังคงเป็นตัวหลักที่คอยหนุน SET Index ตามแรงซื้อของกลุ่มสถาบัน และจากที่การประชุม ครม. มีมติออกมาตรการ ”ช็อบช่วยชาติ” สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีก 15,000 บาท ในการใช้จ่ายในช่วงวันที่ 14-31 ธันวาคมนี้ ทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศเข้ามา และช่วยให้ SET Index ปรับตัวลงไม่มากนัก นอกจากนี้ ตลาดได้ยังได้รับผลดีจากการที่ศาลอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ที่ทำให้สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับ SSI จะมีภาระในการตั้งสำรองฯน้อยลงในอนาคต และทำให้ NPL ของระบบธนาคารพาณิชย์ลดลง ในส่วนของราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,522.51 จุด ปรับลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา -0.25 %

ในส่วนของมุมมองระยะสั้นสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปี คาดว่า SET Index จะสามารถแกว่งตัวยืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้ จากปัจจัยหลักมาจากเม็ดเงิน LTF/RMF ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม กระแส Fund Flow ไหลออกยังคงเป็นแรงกดหลักของ SET Index ในส่วนของปัจจัยที่น่าควรติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมนโยบายทางการเงินของ BOJ และ กนง. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม

Thai-Market13-16-Dec