ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์สี่ของเดือนมีนาคม SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงกลางสัปดาห์มีการประกาศยอดส่งออกลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ที่ -2.8% โดยสาเหตุหลักนั้นมาจากการส่งออกทองคำที่สูงกว่าปกติในปีก่อน ซึ่งหากไม่รวมทองคำ ยอดส่งออกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้จะเติบโตขึ้น 8.5% โดยการเติบโตหลักมาจากกลุ่มสินค้ายางพารา เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า สำหรับปัจจัยของต่างประเทศนั้น ในสหรัฐฯ มีประเด็นเรื่องสภาฯ มีการพิจารณายกเลิกกฎหมาย Obamacare โดยจะเปลี่ยนเป็นกฎหมาย American Healthcare ซึ่งตามกำหนดการจะมีการลงมติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เนื่องจากความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของพรรครีพับลิกันเอง ทำให้ต้องเลื่อนการลงมติออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลถึงความเชื่อมั่นในนโยบายของประธานาธิปดีสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถทำให้สภาฯ เห็นชอบในนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ได้ทั้งหมดหรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายปฏิรูปภาษี ทำให้มีการคาดการณ์ว่านักลงทุนอาจจะย้ายการลงทุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นแทน
ทิศทางของ Fund Flow ต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาเป็น Net Buy 4.3 พันล้านบาท หลังจากหมดความกังวลเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed
ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ WTI แกว่งตัวอยู่ในระดับ $47 – 48 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ 533 ล้านบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้น 11% YTD หรือ 53 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีการประชุมร่วมกันของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ผ่าน Joint Ministerial Monitoring Committee เพื่อติดตามผลของการลดกำลังผลิต โดยคาดว่าผลของการประชุมนั้นจะเป็น Sentiment หลักของราคาน้ำมันในสัปดาห์หน้า โดยสิ้นสัปดาห์ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $47.97 ต่อบาร์เรล ลดลง 1.66% WoW
สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,573.51 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.80%
มุมมองตลาดระยะสั้น SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จาก Fund Flow ที่มีโอกาสไหลกลับมายังตลาด Emerging Market จากการที่นักลงทุนเริ่มขาดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนได้ โดยในสัปดาห์นี้ จะเริ่มมีการเจรจา Brexit ของอังกฤษและ EU และในปลายเดือนเมษายนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฝรั่งเศส