ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่สี่ของเดือนมิถุนายน 2559 มีแนวโน้มค่อย ๆ แกว่งตัวขึ้นในเกือบทั้งสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนค่อนข้างมั่นใจว่าผลประชามติ Brexit จะออกมาว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้สหราชอาณาจักรอยู่กับสหภาพยุโรปต่อไป เนื่องจากทุกสำนักสำรวจความคิดเห็นได้ผลออกมาว่าจำนวนผู้ออกเสียงให้อยู่ต่อจะมากกว่าผู้ออกเสียงให้ออกจากสหภาพยุโรปประมาณ 2-3% อย่างไรก็ตาม เมื่อผลประชามติออกมาในช่วงเช้าของวันศุกร์ว่า มีผู้ออกเสียงให้ออกจากสหภาพยุโรป 51.9% และให้อยู่ต่อ 48.1% ทำให้นักลงทุนค่อนข้างผิดหวัง และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่อังกฤษต้องออกจากสหภาพยุโรป ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน และย้ายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ และทองคำแทน ขณะเดียวกันก็เทขายเงินยูโรและเงินปอนด์และย้ายไปถือเงินสกุลหลักอื่น ๆ เช่น เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และเงินเยน จึงทำให้ตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงถึง 43 จุด (2.96%) ในระหว่างวัน ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่าย เมื่อนักลงทุนมองว่าผลกระทบของ Brexit ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างน้อย (รายละเอียดของผลกระทบจาก Brexit ต่อตลาดหุ้นไทย ดูได้ใน CIO Blog)
สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,413.19 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.57%
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อปัจจัยความไม่แน่นอนเรื่องการลงประชามติถอดตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed หมดไป ทำให้นักลงทุนที่รอจังหวะลงทุนเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ ปัจจัยถัดไปที่นักลงทุนควรจับตามองคือการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่จะเริ่มทยอยออกมาตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป
