ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย (16 – 20 มกราคม 2560 )

ตลาดการเงินในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลของประเทศหลัก ๆ (Sovereign Bond Yield) เคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบแคบตามหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แก่ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษแถลงรายละเอียดของแผนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยระบุว่า อังกฤษจะหาทางทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งยังระบุด้วยว่าจะทำให้อังกฤษกลับมามีอำนาจใช้กฏหมายของประเทศโดยการถอนตัวออกจากศาลยุติธรรมยุโรป (ECJ) และจะทำให้อังกฤษสามารถควบคุมการเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากยุโรป ซึ่งจะใช้หลักการเจรจา 4 ข้อ ได้แก่ ความแน่นอนและความชัดเจน การทำให้อังกฤษมีความแข็งแกร่งขึ้น การทำให้อังกฤษมีสภาพที่ดีขึ้น และการทำให้อังกฤษมีความเป็นระดับโลกอย่างแท้จริง ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 0.00% ตามความคาดหมาย พร้อมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ นอกจากนี้ จะยังคงดำเนินโครงการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. และหลังจากนั้นจะซื้อสินทรัพย์วงเงิน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ และเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างเฝ้ารอคือ การกล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ซึ่งได้ย้ำจุดยืนที่จะปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐในด้านการค้า ภาษี ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ มากขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเคลื่อนไหวขึ้นลง 0.01-0.03% โดยยังคงมีความต้องการซื้อพันธบัตรระยะสั้นไปจนถึงรุ่นอายุประมาณ 6 ปี ซึ่งการเปิดประมูลพันธบัตรรุ่นอายุ 5.5 ปี (Re-open) ในวันพุธได้รับความสนใจซื้อจากนักลงทุนเต็มจำนวน 25,000 ล้านบาท และใช้ Greenshoe Option ไปอีก 4,870 ล้านบาท โดยตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวประมาณ 7.69 พันล้านบาทและ 16.31 พันล้านบาทตามลำดับ

thai-fixed-income-16-20-Jan2017