ภาวะตลาดหุ้นไทย (10 – 12 เมษายน 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน SET Index มีการแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,577-1,589 จุด โดยตลาดหุ้นยังได้รับผลดีจากเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุน หลังจากความผิดหวังในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำให้มีการขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในขณะที่นักลงทุนในประเทศเริ่มมีการชะลอการลงทุน เนื่องจากอยู่ในช่วงหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ ทำให้มูลค่าการซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างเบาบาง ทั้งนี้ เงินลงทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีสภาพคล่องสูงและการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ที่คาดว่าจะออกมาดี โดยคาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเริ่มประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 หลังเทศกาลสงกรานต์ ตลาดหุ้นไทยแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ และการเลือกตั้งในฝรั่งเศสที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เมษายนนี้ ซึ่งผลสำรวจยังพบว่าคะแนนเสียงของผู้สมัครลำดับ 1-4 ยังค่อนข้างใกล้เคียงกัน และมีผู้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้ใครมากถึง 50%

ราคาน้ำมันดิบ WTI ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% ปิดที่ $53.18/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 หลังจากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 533.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งช่วยสนับสนุนให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานทำให้ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,589.50 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 5.97 จุด หรือ 0.37%

มุมมองตลาดระยะสั้น คาดว่า SET Index ยังคงมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งเรื่องความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและการเลือกตั้งในฝรั่งเศส รวมทั้งการที่ SET Index ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,600 จุด ทำให้นักลงทุนในประเทศชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย คาดว่า SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาด Emerging Market ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย และแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มเติบโตสูงขึ้น ที่จะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นได้