ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย (17 – 21 กรกฎาคม 2560 )

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างมีมติคงนโยบายการเงินเดิมตามคาด โดยประธาน ECB ได้แถลงว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าจะพิจารณาปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในอนาคต ในขณะที่ BOJ ประเมินเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ปรับเป้าอัตราเงินเฟ้อลงซึ่งส่งสัญญาณว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ส่งผลให้ค่าเงินยูโรต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี และค่าเงินเยนต่อดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน หลังนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลทรัมป์ในการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ล่าสุดไม่ประสบความสำเร็จในการผ่านร่างกฏหมายระบบประกันสุขภาพแบบใหม่ อัตราผลตอบแทน 10-Year US Treasury ปรับลดลงต่อเนื่อง โดยในรอบสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2.24-2.31% จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.33-2.38%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยตลอดทุกช่วงอายุยังคงปรับลงต่อ โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนจากการประมูลพันธบัตรระยะสั้นลดลงต่อเนื่อง 0.01-0.10% โดยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยรุ่น 14 วัน, 91 วัน และ 182 วัน อยู่ที่ 1.1203%, 1.1772% และ 1.3705% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยรุ่น 14 วัน, 91 วัน และ 182 วัน อยู่ที่ 1.1098%, 1.2693% และ 1.4110% ตามลำดับ ส่วนผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาว รุ่นอายุประมาณ 5 ปีขึ้นไปปรับลดลงไม่มากนัก ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้งพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว เป็นจำนวนประมาณ 1.6 พันล้านบาท และ 454 ล้านบาท ตามลำดับ

thai-fixed-income-market-17-21Jul2017