ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย (21 – 25 สิงหาคม 2560 )

การประชุมผู้นำธนาคารกลางทั่วโลกที่เมืองแจ๊คสัน โฮล ที่มีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้มีนัยสำคัญในทางนโยบายการเงินใหม่ ๆ ออกมาตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เฝ้ารอ โดยประธานธนาคารกลางยุโรปไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น และประธานธนาคารกลางสหรัฐก็เลี่ยงที่จะระบุถึงแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐในการแถลงสุนทรพจน์ ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจของไทยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงาน GDP ไตรมาสที่สองของปีนี้ว่าขยายตัวได้ 3.7% จากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 3.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยภาคต่างประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ทั้งจากการท่องเที่ยวและการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนค่อย ๆ ฟื้นตัวจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น โดย สศช. ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็นขยายตัว 3.5-4.0% จากเดิม 3.3-3.8%

จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 27 เดือนในสัปดาห์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหนังสือเวียนขอความร่วมมือให้สถาบันการเงินติดตามการทำธุรกรรมเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (Non-resident : NR) และแจ้งให้ธปท. ทราบ หากพบความผิดปกติของการโอนเงินระหว่างบัญชี Non-resident Baht Account ระหว่างวันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก หรือได้ทราบข้อมูลหรือพฤติกรรมของ NR ในตลาดเงินตราต่างประเทศในลักษณะที่เป็นการเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ไทย เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้งพันธบัตรระยะสั้นและพันธบัตรระยะยาว ประมาณ 7.5 พันล้านบาทและ 1.7 พันล้านบาทตามลำดับ

Thai-Fixed-Income-21-25-Aug