ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา และสามารถปรับตัวขึ้นผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,650 จุดได้ และปิดที่ 1,660 จุด ในวันสิ้นสัปดาห์ ขณะที่ Fund Flow ของต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ยังเป็นแรงสนับสนุนหลักในการผลักดันให้ SET Index ปรับตัวขึ้น ในขณะที่การเข้าพบรัฐบาลของนักธุรกิจญี่ปุ่นและเข้าเยี่ยมชมเขต EEC กว่า 500 คนในช่วงกลางสัปดาห์ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในทิศทางการพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับ Demand น้ำมันดิบทั้งปีเพิ่มขึ้นหลังพายุฮาร์วีย์สงบลง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น
ปัจจัยต่างประเทศ จากสถานการณ์วันชาติของเกาหลีเหนือเป็นไปด้วยความสงบ ทำให้ความตึงเครียดลดลง ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น
เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 33.08 บาทต่อดอลล่าร์ แข็งค่า 0.03% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น Net Buy ที่ 8.0 พันล้านบาท
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง จากการคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่เพิ่มการคาดการณ์ Demand น้ำมันตลาดโลกในปีนี้ แม้ว่าตัวเลข Demand ในช่วงเดือนสิงหาคมมีการปรับตัวลง ซึ่งแสดงถึงการคาดการณ์ Demand ที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงปีที่เหลือ ทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $49.89 ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 5.08% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,660.53 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 24.92 จุด หรือ 1.52%
มุมมองตลาดในระยะสั้น SET Index สามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ในขณะที่นักวิเคราะห์ได้ทยอยปรับประมาณการ SET Index สิ้นปีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นยังได้รับอานิสงส์จาก Fund Flow ที่ยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้น จะมีการประชุม FOMC ในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน ซึ่งคาดว่าจะคงมติดอกเบี้ยทางนโยบายที่ 1.25% คงเดิม แต่อาจจะมีการประกาศเริ่มกระบวนการการปรับลดงบดุลลง