ภาวะตลาดหุ้นไทย (16 – 20 ตุลาคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สามของเดือนตุลาคม ได้มีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 เดือน ซึ่งเป็นการขายทำกำไรในแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหุ้นที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้มีการขายทำกำไร ได้แก่ การประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ประกาศออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ จากการตั้งสำรองหนี้เสียที่ยังอยู่ในระดับสูง และข่าวที่ PTTEP จะมีการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในโครงการ Oil Sand ในประเทศแคนาดาประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท และการขายทำกำไรในตลาดหุ้นเอเชียจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์มีการปรับตัวขึ้น หลังจาก กสทช. ประกาศปรับลดค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการ Digital TV ตามระดับรายได้ของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ในจังหวะที่หุ้นตกลงแรง ได้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้น Mid-Small Cap ที่มีแนวโน้มเติบโตดีด้วย

สำหรับปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนยังติดตามข่าวการเลือกประธาน FED คนใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่คาดว่าจะมีการตัดสินใจภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการเลือกประธาน FED นี้อาจจะส่งผลให้ FED ใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น และการที่วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณปี 2561 ซึ่งจะส่งผลให้แผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์มีโอกาสจะเริ่มดำเนินการได้มากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้มีการขายทำกำไรในตลาดหุ้นเอเชียและค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้น ในส่วนปัญหาการแยกตัวของแคว้นกาตาลุญญาในสเปนนั้น จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 ตุลาคม ซึ่งไม่มีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าที่ 33.18 บาทต่อดอลล่าร์ อ่อนค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า 0.18%

Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น Net Sell ที่ 7.2 พันล้านบาท

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้แรงสนับสนุนหลักจากการปรับลดลงของแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ และการรายงานตัวเลขส่งออกน้ำมันดิบในอิรักลดลง อย่าไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์มีแรงขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นสูงของราคาน้ำมันดิบ สิ้นสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $51.47 ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 0.04% จากสัปดาห์ก่อนหน้า

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,692.58 จุด ปรับตัวลดลง 19.90 จุด หรือ 1.16% จากสัปดาห์ก่อนหน้า

มุมมองตลาดในระยะสั้น เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้น และคาดว่า SET Index จะสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,700 จุด ได้จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และเม็ดเงินของ LTF ในช่วงปลายปีกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทจะช่วยสนับสนุน SET Index อย่างต่อเนื่อง

Thai-Equity-Market-16-20-Oct