ภาวะตลาดหุ้นไทย – เมษายน 2561

ในเดือนเมษายน SET Index ปรับตัวขึ้น (+0.24% MoM) จากสิ้นเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากปัญหาด้านสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ลดความรุนแรงลง และการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ โดยมีปัจจัยการเมืองในประเทศและผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นปัจจัยกดดันเล็กน้อย

โดยภาพรวมตลาดในเดือนเมษายนมีความผันผวนสูง ในช่วงต้นเดือนตลาดได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากจีนและสหรัฐฯ ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้กันอย่างเข้มข้น แต่ในกลางเดือนก็เริ่มผ่อนคลายลงและพร้อมเข้าสู่การเจรจา ทางฝั่งยุโรป ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.0% และคงนโยบาย QE ที่ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2561 ซึ่งไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการยุติ QE ก่อนกำหนดแต่อย่างใด และในช่วงปลายเดือนเมษายน ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลต่อการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3.0% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี กดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับตัวลดลง

ปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อ SET Index ได้แก่ การเลือกตั้งของไทย หลังสนช.ยื่นร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งคาดว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาราว 2 เดือน ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าการเลือกตั้งอาจจะล่าช้าออกไป หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากการประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ได้รับผลกระทบจากกระทรวงพลังงานจะปรับสูตรราคาหน้าโรงกลั่นใหม่ ส่งผลให้ตลาดปรับฐานแรงในช่วงต้นเดือน ประกอบกับการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ด้วยระดับการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง แต่ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแย่กว่าที่คาด ต่อมาในช่วงปลายเดือน ความคืบหน้าด้านการประมูลแหล่งน้ำมันบงกช และเอราวัณ และราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยเข้ามาผลักดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTTEP การยืดอายุการชำระใบอนุญาตดิจิตอลทีวีของ คสช. ก็ผลักดันราคาหุ้นในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ขึ้นเช่นกัน ทำให้ SET Index สามารถฟื้นตัวและกลับมาปิดที่ระดับเป็นบวกได้ในเดือนเมษายน

สรุปภาวะตลาดหุ้นช่วงเดือนเมษายน 2561 SET Index ปิดที่ 1,780.11 จุด ปรับตัวขึ้น +0.24% จากเดือนก่อนหน้า โดยหุ้นกลุ่มหลักที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด ได้แก่ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +5.4% กลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ +3.3%และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ +2.5% ในขณะที่หุ้นกลุ่มหลักที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกัน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเกษตร -5.8% กลุ่มการแพทย์ -4.9% และกลุ่มธนาคาร -3.4% ในเดือนเมษายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากที่สุดมูลค่า 21,450 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นผู้ซื้อสุทธิ 15,552 ล้านบาท

บลจ. ทาลิสคาดว่าตลาดหุ้นจะแกว่งตัวแบบ Sideway ในช่วงสั้น แต่ในครึ่งหลังของปี 2561 ตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มแกว่งตัวในทิศทางขึ้น เนื่องจากตลาดซึมซับกับปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศไปค่อนข้างมากแล้ว และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ดี ทั้งภาคการส่งออกและท่องเที่ยว โดยธนาคารโลกได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวถึง 4.1% ระบบการเงินยังมีสภาพคล่องสูง อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึงโครงการ EEC ของรัฐบาล ปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง หนุนการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียน และผลักดันตลาดหุ้นให้มีแนวโน้มขึ้นต่อไปได้

สำหรับปัจจัยเสี่ยง ยังคงมีประเด็นการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการประกาศกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 และความเสี่ยงด้านการปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ลง