ภาวะตลาดหุ้นไทย – กุมภาพันธ์ 2565

SET Index ปรับตัวขึ้น 2.21% สู่ระดับ 1,685.18 จุด โดยได้รับแรงสนับสนุนจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 4/2564 ที่ออกมาดีกว่าคาด และ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากความตึงเครียดของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมไปถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศไทยที่พุ่งสูงขึ้นเกิน 20,000 รายต่อวัน

ปัจจัยภายนอกประเทศที่ส่งผลต่อ SET Index ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คือแรงกดดันจากความตึงเครียดของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยหลังจากการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศไม่สัมฤทธิ์ผล รัสเซียจึงเปิดฉากเข้าโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. 2565 ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวลง ตลาดหุ้นของรัสเซีย (ดัชนี MOEX) ปรับตัวลดลง 45% จากวันทำการก่อนหน้า และ SET Index ปรับตัวลดลง 0.65% จากวันทำการก่อนหน้า โดยหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้ทยอยคว่ำบาตรรัสเซียด้วยวิธีต่างๆ อาทิเช่น ควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุน การห้ามค้าขาย การห้ามการเดินทางของผู้อำนาจของรัสเซีย และการชะลอการอนุมัติโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 ของเยอรมัน ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่สำคัญของรัสเซียในการควบคุมอุปทานของก๊าซธรรมชาติในประเทศแถบทวีปยุโรป โดยผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้นจำกัดเนื่องจากไทยกับรัสเซียค้าขายกันในปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณยอดส่งออก/นำเข้าทั้งหมดของประเทศไทย แต่แรงกดดันจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้นยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนรุนแรงอยู่ในระยะสั้น และจะมีแรงกดดันเพิ่มเติมหากสงครามนั้นยังยืดเยื้อต่อไปเรื่อย ๆ

ปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลต่อ SET Index ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คือตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 24,932 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อด้วยวิธีการตรวจผ่านชุดตรวจ ATK รายวันสูงทะลุ 20,000 ราย โดยทางภาครัฐยังไม่ได้มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเพิ่มเติม เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นน้อยมาก ในทางกลับกัน ภาครัฐยังมีการผ่อนคลายมาตรการทางการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ในโครงการ Test&Go ได้ปรับลดจำนวนครั้งของการตรวจ RT-PCR จาก 2 ครั้งเป็น 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป และให้เปลี่ยนเป็นการตรวจแบบ ATK แทน รวมไปถึงการปรับลดวงเงินประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากขั้นต่ำที่ 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ มาเป็นไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็เป็นช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่แสดงผลการดำเนินงานที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ มีการฟื้นตัวจากไตรมาสที่ 3 ที่มีการระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์เดลต้า และเติบโตมากกว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้ SET Index มีการปรับตัวขึ้นได้แม้ว่าสถานการณ์ในต่างประเทศจะไม่ดีนัก

สรุปภาวะตลาดหุ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 SET Index ปิดที่ระดับ 1,685.18 จุด เพิ่มขึ้น 36.37 จุดหรือ 2.21% จากเดือนก่อน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ดัชนีปรับตัวขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ระดับ 1,718.55 จุด ด้วยแรงสนับสนุนจากการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 4/2564 ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศจากแรงกดดันจาก Geopolitical Risks ระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ว่าจะมีความพยายามให้เกิดการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมทั้ง SET Index ร่วงลงอย่างหนัก จน SET Index หลุดต่ำกว่า 1,700 จุด ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ราคาพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยหุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ กลุ่มการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 7.4% กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7.3% และกลุ่มพาณิชย์ 6.6% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจการเกษตร -5.5% กลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต -4.2% กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -3.9% ให้ผลตอบแทนการลงทุนลดลงมากที่สุดในช่วงเดียวกัน

ในเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 62,975 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิที่ 4,630 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันภายในประเทศขายสุทธิที่ 39,299 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปภายในประเทศขายสุทธิที่ 28,306 ล้านบาท