ในช่วงกลางสัปดาห์ มีเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือประกาศว่าจะยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐที่เกาะกวม และประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์อย่างแข็งกร้าวว่าจะตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ตลาดทุน Risk-off โดยราคาหุ้นในตลาดสำคัญปรับตัวลดลง ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้น ทั้งราคาทองคำและ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินหลักปรับตัวลง นอกจากนี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประกาศ ได้แก่ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นเป็น 244,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 240,000 ราย, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ลดลง 0.1% จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2016 อันเป็นผลจากการปรับตัวลงของค่าใช้จ่ายภาคบริการ
ทางด้านตลาดตราสารหนี้ ช่วงปลายสัปดาห์ 10-Year US Treasury Yield ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 2.20% จากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยตลอดทั้งสัปดาห์ยังคงมียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะสั้นที่อัตราผลตอบแทนจากการประมูลปรับลดลงต่อ ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยเฉลี่ยรุ่น 14 วัน, 91 วัน และ 182 วัน อยู่ที่ 1.0414%, 1.0521% และ 1.2151% ตามลำดับ เปลี่ยนแปลงจากในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.0383%, 1.094% และ 1.3195% ตามลำดับ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ -0.01% ถึง +0.03% ทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้งพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว เป็นจำนวนประมาณ 16.8 พันล้านบาท และ 6.2 พันล้านบาท ตามลำดับ