ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย (18 – 22 กันยายน 2560 )

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของประเทศสำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) ซึ่งมีมติคงกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.00-1.25% และประกาศจะเริ่มลดการถือครองพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ในเดือนตุลาคมปีนี้ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหลังเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ 0% จากผลดังกล่าวทำให้นักลงทุนปรับเพิ่มโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธันวาคมปีนี้ อัตราผลตอบแทนของ 10-Year US Treasury จึงขึ้นมาแตะ 2.28% ในระหว่างสัปดาห์ก่อนที่จะปรับตัวลงมาปิดที่ 2.26% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากการกลับมากังวลถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอีกครั้งหนึ่ง

ทางด้านตลาดตราสารหนี้ไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงตลอดทั้งเส้น จากการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลังว่า ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลด Policy Rate ซึ่งการซื้อขายในตลาดรองโดยเฉพาะรุ่นอายุ 5 ปีขึ้นไป ลดลง 0.05-0.08% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก สำหรับมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลไทยตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นจำนวนประมาณ 2.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นการขายสุทธิพันธบัตรระยะสั้น 9.3 พันล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรระยะยาว 11.9 พันล้านบาท เมื่อหักพันธบัตรที่ครบกำหนดอายุแล้ว ในเดือนนี้นักลงทุนต่างชาติเพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลไทยถึงเกือบ 8 หมื่นล้านบาท

Thai-Fixed-Income-Market-18-22-Sep