ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในเดือนกันยายนของสหรัฐแสดงถึงการเติบโตต่อเนื่องหลายรายการ เช่น ดัชนีภาคการผลิตและดัชนีภาคบริการของ ISM ที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปี 2004-2005 จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงจากเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าที่คาด และการขาดดุลการค้าในเดือนส.ค. ที่ปรับลดลงในขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น เป็นต้น จากปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนดัชนีราคาหุ้นตลาดสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าสะท้อนว่ามีโอกาสเกิน 80% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนธ.ค. นี้
ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจของไทย กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.86% yoy (เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.32% yoy) ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.53% yoy (เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.46% yoy) สาเหตุจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในรอบสัปดาห์นี้ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของสัปดาห์ ก่อนที่จะปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์จากกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับมาเป็นการซื้อสุทธิในวันพฤหัส ตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิพันธบัตรระยะสั้น 7.2 พันล้านบาท ซื้อสุทธิพันธบัตรระยะยาว 2.4 พันล้านบาท