อัพเดทข่าวสาร

ภาวะตลาดหุ้นไทย 22-26 สิงหาคม 2559

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนสิงหาคม ตลาดหุ้นแกว่งตัวในช่วงแคบระหว่าง 1,528 – 1,555 จุด นักลงทุนชะลอการลงทุนเมื่อ SET Index ถึงระดับ 1,550 จุดซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา และขายทำกำไรในระยะสั้นเป็นช่วง ๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอถ้อยแถลงของประธาน Fed ในวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม เกี่ยวกับท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ทำให้ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มอาหารที่ปรับขึ้นต่อเนื่องตอบรับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่ดี และการประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น จากข่าวว่าอิหร่านมีท่าทีที่จะเข้าร่วมการประชุม OPEC ที่กำลังจะมีขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า OPEC จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันได้ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มขนส่งเริ่มมีการฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลงจากเหตุการณ์ไม่สงบในภาคใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,549.41 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.69%

แนวโน้มตลาดหุ้นในระยะสั้นยังมีโอกาสแกว่งตัวในระดับ 1,520 – 1,550 จุด หลังจากที่ Janet Yellen ประธาน Fed แถลงว่ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอัตราจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นตามเป้าหมาย ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Fed มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้น และนักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ FTSE จะมีการปรับน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะมีการรวมน้ำหนักของหุ้น NVDR เข้าในการคำนวนดัชนีของ FTSE ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้

ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 15 – 19 สิงหาคม 2559

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวได้ดี โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงาน GDP ในไตรมาสที่สองขยายตัว 3.5% โดยมาจากการบริโภคภาคเอกชน (+3.8%) การลงทุนภาครัฐ (+10.4%) และการท่องเที่ยว (+12.1%) แต่การลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว (+0.1%) เนื่องจากการหดตัวในการก่อสร้างและการส่งออกสินค้าที่ยังคงอ่อนแอ (-3.1%) อย่างไรก็ดี สศช. คงประมาณการ GDP ในปีนี้ไว้ที่ 3.0-3.5% ทางด้านตลาดต่างประเทศ FOMC ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนกรกฎาคม โดยมีความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงาน แต่กรรมการแต่ละรายยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของภาคธนาคารอิตาลี โดยประธานธนาคาร BMPS ของอิตาลีถูกสอบสวนในข้อหาแต่งบัญชีและปั่นตลาดในการธุรกรรมเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์และยังมีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อธนาคารรายอื่นของอิตาลีหรืออาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ของอิตาลีด้วย

สำหรับตลาดพันธบัตรของไทย นักลงทุนสถาบันรอความชัดเจนของการทำ Bond Switching จากสำนักบริหารหนี้สาธารณะ มูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศตลอดทั้งสัปดาห์ ซื้อสุทธิ 25.5 พันล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นพันธบัตรอายุไม่เกิน 1 ปีประมาณ 20.7 พันล้านบาท โดยรวมอัตราผลตอบแทนปรับเพิ่มขึ้น 0.01-0.05%

ภาวะตลาดหุ้นไทย 15-19 สิงหาคม 2559

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่สามของเดือนสิงหาคม 2559 SET Index มีการแกว่งตัวลง และยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,550 จุดได้ นักลงทุนมีการขายทำกำไรในหุ้นหลาย ๆ กลุ่มอุตสาหกรรมหลังรับรู้ข่าวการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 เสร็จสิ้น แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 จะดีกว่าคาด และนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2016 เพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ราคาหุ้นยังได้รับผลกระทบจากการทยอย XD ของบริษัทจดทะเบียน สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในช่วงวันแม่ในหลายจังหวัดในภาคใต้ ซึ่งทำให้มีการขายหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวออกมา ขณะเดียวกัน ปัจจัยต่างประเทศก็ไม่สนับสนุนตลาดหุ้นมากนัก เมื่อคณะกรรมการ FOMC บางท่านออกมาให้ความเห็นว่า FOMC น่าจะมีการปรับขึ้น Fed Fund Rate บ้างในปี 2016 ซึ่งทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรในน้ำมัน เมื่อ OPEC มีท่าทีว่าจะไม่เพิ่มกำลังผลิตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ช่วยให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น และช่วยให้ SET Index ปรับตัวลงไม่มากนัก

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,538.76 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.89%

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น โดยนักลงทุนกลับไปให้ความสนใจกับสุนทรพจน์ของ Jenet Yellen ผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐฯ ในการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลกประจำปีที่ Jackson Hole ในระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคม ว่าจะมีการพูดถึงแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในลักษณะใด ประกอบการการทยอย XD จำนวนมากของบริษัทจดทะเบียนในเดือนสิงหาคม ที่มีผลกระทบราคาหุ้นด้วย

ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 8 – 11 สิงหาคม 2559

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีตัวเลขเศรษฐกิจจากทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ออกมา เช่น เศรษฐกิจเยอรมันที่เติบโตถึง 3.1% yoy ในขณะที่ทางสหรัฐฯ มีข้อมูลเศรษฐกิจทั้งที่ดีขึ้นและต่ำกว่าคาด เช่น ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มิ.ย. ซึ่งผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน แม้ว่ารายงานการจ้างงานเดือน ก.ค. ที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจะเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังรอการแสดงความเห็นจากประธาน FED ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

สำหรับตลาดพันธบัตรของไทย ตลาดค่อนข้างเงียบและมีปริมาณการซื้อขายน้อย ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เข้ามาแทรกแซง (OMO) โดยการเรียกซื้อพันธบัตรรุ่นอายุประมาณ 4 ปีและ 9 ปี วงเงินรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนผลการประมูลพันธบัตรระยะสั้น อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01-0.03% และในวันพุธที่ผ่านมามีการประมูลพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี (LB26DA, New On-the-run Bond) ซึ่งได้รับความสนใจจากตลาดพอสมควร อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.091% ต่อปี

ภาวะตลาดหุ้นไทย 8-11 สิงหาคม 2559

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม 2559 SET Index สามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือระดับ 1,550 จุดได้ เนื่องจากตลาดหุ้นได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงได้รับประชามติเห็นด้วยอย่างท่วมท้น ทำให้นักลงทุนมีความั่นใจเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลปัจจุบัน และ Road Map การเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งราวปลายปี 2560 จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้น โดยเฉพาะแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไล่ซื้อหุ้นที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจับสนับสนุนจากการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียน ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะผลประกอบการของกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจการเกษตร กลุ่มอาหาร กลุ่ม ICT และกลุ่มขนส่ง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะค่อนข้างผันผวน และเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานก็ตาม

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,552.64 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.24%

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ว่าตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบบ้างจากการก่อวินาศกรรมในจังหวัดทางภาคใต้ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวบ้าง แต่หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก ตลาดหุ้นก็มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากยังมีเงินลงทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชีย และแนวโน้มการปรับประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น

ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 1 – 5 สิงหาคม 2559

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ต่อเนื่องตามคาดและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ตามรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนในภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น แต่การลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกสินค้ายังคงหดตัวตามเศรษฐกิจเอเชียที่ชะลอลงมากกว่าคาด ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวอยู่ในระดับต่ำเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน อาทิ ความไม่แน่นอนภายหลังการลงประชามติในสหราชอาณาจักร (Brexit) ปัญหาภาคการเงินในยุโรป และพัฒนาการทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าในระยะต่อไป ในขณะที่ความเสี่ยงในภาคการเงินจีนยังมีอยู่

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของอังกฤษ (BOE) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.25% และเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินซึ่งจะช่วยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ค่าเงินปอนด์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลง ในขณะที่ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาในคืนวันศุกร์ คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกรกฏาคมเพิ่มขึ้นถึง 255,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนกลับมาคาดหวังถึงโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่เร็วขึ้นอีกครั้ง

สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยรับข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและอังกฤษ จึงทำให้อัตราผลตอบแทนปรับลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะรุ่นอายุประมาณ 7-20 ปี ลดลง 0.06-0.09% ต่อปี ตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 30.1 พันล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นพันธบัตรอายุไม่เกิน 1 ปีประมาณ 27.7 พันล้านบาท

ภาวะตลาดหุ้นไทย 1-5 สิงหาคม 2559

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2559 ค่อนข้างมีความผันผวน เนื่องจาก SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม โดยปรับตัวขึ้นถึง 5.47% เมื่อขึ้นเดือนใหม่และเข้าใกล้วันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งยังมีความวิตกกังวลว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ ทำให้นักลงทุนถือเป็นโอกาสในการขายทำกำไรออกมาก่อน และทำให้ SET Index ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,500 จุดในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม จากการที่ธนาคารกลางของอังกฤษ (BoE) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และเพิ่มปริมาณเงินในการซื้อพันธบัตร (เพิ่ม QE) ทำให้มีเม็ดเงินไหลกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นโลกอีกครั้ง เมื่อประกอบกับการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมา เช่น IRPC, ADVANC และการ Preview ผลประกอบการของอีกหลาย ๆ บริษัทของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะออกมาดี ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นคืนในช่วงปลายสัปดาห์ และสามารถทำให้ SET Index ปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,500 จุดได้อีกครั้ง

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,518.69 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.35%

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากตลาดหุ้นมีการปรับตัวพักฐานในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ทำให้ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะสั้นหายไป นักลงทุนจึงพร้อมที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมา ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี

ภาวะตลาดหุ้นไทย 20-22 กรกฎาคม 2559

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคม 2559 ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นไทยได้รับแรงสนับสนุนจากเทศกาลหยุดยาว ที่ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติรอซื้อหุ้นอยู่ ต่อเนื่องจากที่เข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นอื่น ๆ ล่วงหน้าไปแล้ว ประกอบกับ Sentiment ที่ดีต่อเนื่องจากการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทำให้มีการไล่ซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เมื่อตลาดเปิดทำการ อย่างไรก็ตาม การประกาศผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้กลายเป็นแรงเทขายธนาคารขนาดใหญ่ที่ผลประกอบการไม่ดีในช่วงท้ายสัปดาห์ แต่ตลาดหุ้นก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ที่คาดว่าผลประกอบการจะดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลง และการซื้อหุ้นกลุ่มขนส่ง ที่คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตดีในช่วงครึ่งปีหลัง ที่เริ่มเข้าสู่ High Season ของฤดูการท่องเที่ยว รวมทั้งการซื้อหุ้นกลุ่ม ICT จากการที่หุ้นกลุ่มนี้หลาย ๆ บริษัทยังมีการจ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี และการเก็งกำไรประโยชน์ที่อาจจะได้รับหากเกมส์โปเกมอน โก มีการเปิดตัวในเมืองไทย

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,509.13 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.15%

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากเงินลงทุนยังคงไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้น และการคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมาน่าจะมีแนวโน้มที่ดี

ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย 20-22 กรกฎาคม 2559

ตัวเลขเศรษฐกิจจากทางสหรัฐฯ ที่ออกมาในเชิงบวก และผลประกอบการของบริษัทใหญ่ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ภาพรวมของตลาดดูเป็น Risk-on ประกอบกับเริ่มมีการคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ จึงเริ่มมีการขายพันธบัตรออกมาบ้าง ทำให้พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (10-Year US Treasury) ซื้อขายกันอยู่ในช่วงอัตรา 1.55-1.60% ต่อปี ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสก็มีมติคงนโยบายการเงินตามคาด โดยประธาน ECB กล่าวว่าจะใช้เวลาในการประเมินการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับแนวโน้มเศรษฐกิจ

สำหรับตลาดพันธบัตรของไทย ได้รับผลกระทบจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นตามโดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 5 ปีขึ้นไปอยู่ในช่วง 0.04-0.12% ต่อปี ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเข้ามาแทรกแซงโดยการซื้อพันธบัตร (Open Market Operation หรือ OMO) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองต่อจากสัปดาห์ที่แล้วรวมวงเงินประมาณ 14 พันล้านบาท เพื่อช่วยไม่ให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรปรับขึ้นแรง นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่แล้วผลกระประมูลพันธบัตรระยะสั้นที่ออกมา อัตราผลตอบแทนของทุกรุ่นก็ปรับขึ้น 0.01-0.02% ตลอดทั้ง 3 วันทำการ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นจำนวนประมาณ 4.1 พันล้านบาท และในจำนวนนี้กว่า 3.7 พันล้านบาทเป็นพันธบัตรระยะสั้น