ภาวะตลาดหุ้นไทย (6 – 10 มีนาคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์สองของเดือนมีนาคม SET Index ปรับตัวลดลงตลอดทั้งสัปดาห์ จากปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะมีการประชุมในวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของสมาชิกและประธาน FOMC ที่ให้ความเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตดีพอที่จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ทำให้ Bloomberg Consensus ปรับประมาณการขึ้นเป็น 100% และปรับเป้าการขึ้นดอกเบี้นจากเดิมที่เคยตั้งไว้ 2 ครั้งเป็น 3 ครั้งในปี 2560 นี้ ทำให้นักลงทุนมีลดการลงทุนในตลาดหุ้นของตลาดเกิดใหม่ลง และส่งผลให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังคงเป็น Net Sell ที่ 7 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน นักลงทุนในประเทศก็ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับผลกระทบจากการเทขายหุ้น GL เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับข้อสังเกตของผู้ตรวจสอบบัญชีว่ามีการปล่อยกู้ให้บริษัทในประเทศสิงคโปร์และไซปรัส โดยหลักประกันบางส่วนใช้หุ้น GL เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีการ Rollover เงินกู้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว ซึ่งทำให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจ และนักลงทุนไม่เชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจในต่างประเทศของ GL และมีการขายหุ้น GL ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจาก 57 บาท เหลือ 25 บาท ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์

ภาวะตลาดหุ้นไทย (27 – 3 มีนาคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม SET Index แกว่งตัวในช่วงแคบในกรอบ 1,573 – 1,555 จุด หลังจากผลประกอบการในไตรมาส 4 ของบริษัทจดทะเบียนประกาศเสร็จสิ้นลงแล้ว โดยภาพรวมแล้วในไตรมาสที่ 4 กำไรเติบโต 20% และในปี 2559 มีการเติบโตสูงถึง 37% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ยังคงให้ภาพรวมที่จะดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ทั้งการลงทุนด้านสาธารณูปโภค การลดภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบเพื่อเอื้อต่อการประกอบธุรกิจของพลเมืองอเมริกา แม้ว่าจะยังไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ทำให้มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาในช่วงต้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน Fed หลายท่านในหลายวาระที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีการคาดการณ์ว่า Fed จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ โดย Bloomberg Consensus ให้ความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ที่ 94% ทำให้มีแรงขายกลับเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิที่ 5.3 พันล้านบาท ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ WTI ยังแกว่งตัวในกรอบ $53-54 ต่อบาร์เรล แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะถูกกดดันโดยสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ แต่การลดปริมาณการผลิตของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ราคาแกว่งอยู่เหนือ $50ต่อบาร์เรลได้ โดยสิ้นสัปดาห์ราคาน้ำมันดิบปิดที่ $53.33 ต่อบาร์เรล ปรับตัวลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา -1.22%

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,566.20 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.10%

มุมมองตลาดระยะสั้น SET Index มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง จากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed และอาจจะเห็น Fund Flow ไหลออกจากภูมิภาค

ภาวะตลาดหุ้นไทย (20 – 24 กุมภาพันธ์ 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนกุมภาพันธ์ SET Index มีการปรับตัวลดลงตลอดทั้งสัปดาห์ในกรอบ 1,581-1,561 จุด แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2559 จะออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างดี กล่าวคือการประกาศ GDP ของไทยสำหรับไตรมาสที่ 4 มีการเติบโตที่ 3% ทำให้โดยรวมทั้งปี GDP เพิ่มขึ้น 3.2% YoY และการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาประมาณ 70% แล้วนั้น ในภาพรวมมีอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้ถือโอกาสขายในช่วงที่มีการประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลประกอบการที่ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้นั้น (Sell on Fact) หลังจากที่หุ้นหลายตัวมีการปรับตัวขึ้นรับข่าวการประกาศผลประกอบการไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการที่นายกรัฐมนตรีใช้คำสั่ง ม.44 สั่งปลดคณะกรรมการและผู้ว่าการ รฟท. และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการและผู้ว่าการ รฟม.ใหม่ รวมทั้งการตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างเข้ามากำกับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น และทำให้กระบวนการประกวดราคาประมูลก่อสร้างรถไฟรางคู่ 5 เส้นทางล่าช้าออกไป และอาจส่งผลกระทบให้การประมูลก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ ล่าช้าออกไปด้วย ทำให้นักลงทุนมีการเทขายหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างออกมา ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็น Net Buy เล็กน้อยที่ 329 ล้านบาท ในส่วนของราคาน้ำมันดิบยังคงแกว่งที่ $53-54 ต่อบาร์เรล และทำจุดสูงสุดในรอบ 19 เดือน จากการประชุม Technical Meeting ติดตามผลการลดกำลังการผลิต ซึ่งกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ทำได้ดีตามปริมาณที่ตกลง และเชื่อว่าจะสามารถลดกำลังการผลิตถึงจุดที่ตกลงกันไว้ได้ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยที่คอยสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานได้

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,564.59 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว -0.84%

มุมมองตลาดระยะสั้น ปัจจัยภายนอกยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยได้ ตลาดยังคนให้ความสนใจกับนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีการแถลงนโยบายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และการประชุม FOMC ที่จะมีในวันที่ 14-15 มีนาคม ซึ่งนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate แม้ว่าตลาดคาดการณ์โอกาสปรับขึ้นเพียง 34% สำหรับการประชุมในครั้งนี้

ภาวะตลาดหุ้นไทย (14 – 17 กุมภาพันธ์ 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,586 – 1,561 จุด จากถ้อยแถลงของประธาน Fed ในช่วงต้นสัปดาห์ เรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ US ที่สามารถฟื้นตัวได้ดีจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรอในการขึ้นของดอกเบี้ย ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า Fed จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ทำให้มีความผันผวนในตลาดหุ้นไทย และนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็น Net Sell ที่ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนหลักของตลาดหุ้นไทยคือการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4/2559 ของบริษัทจดทะเบียน ที่ทยอยประกาศออกมา ซึ่งโดยภาพรวมจะเป็นไปตามคาดหรือดีกว่าคาด ในขณะที่กลุ่มพลังงานยังถูกกดันจากการที่ปริมาณ Rig Count ในสหรัฐฯยังคงเพิ่มขึ้น และ Inventory ของน้ำมันในสหรัฐฯยังคงเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันจะยังคงแกว่งตัวที่ระดับ $52-53 ต่อบาร์เรลก็ตาม

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,577.84 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว -0.47%

มุมมองตลาดระยะสั้น คาดว่าตลาดยังคงมีการแกว่งตัวในระดับ 1,570-1,600 จุด โดยนักลงทุนยังให้ความสำคัญกับการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาของบริษัทจดทะเบียน ที่ทยอยประกาศออกมามากขึ้น และเชื่อว่าหากผลประกอบการออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,600 จุดได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป นักลงทุนควรให้ความสนใจกับประเด็นการเลือกตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 23 เมษายน และวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่พรรค National Front ของ นาง Marine Le Pen ซึ่งมีนโยบายชาตินิยมและต้องการนำฝรั่งเศสถอนตัวออกจาก Euro Zone กำลังได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับคะแนนความนิยมถึง 34% ตามหลัง นาย Emmanuel Macron เพียง 5%

ภาวะตลาดหุ้นไทย (6 – 10 กุมภาพันธ์ 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ SET Index มีการแกว่งตัวขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถปรับตัวทะลุระดับ 1,600 จุดไปได้ โดยตลาดหุ้นไทยได้รับการสนับสนุนจากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมลงนามประกาศการปรับลดภาษี Corporate Tax ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า การที่ TOT เปิดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ร่วมเสนอตัวให้บริการไร้สายในคลื่นความถี่ 2,300 MHz และการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของกลุ่ม INTUCH ที่ออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ ที่ทำให้หุ้นกลุ่ม ICT ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ผลการปรับน้ำหนักการคำนวน MSCI ไม่มีหุ้นที่ถูกเสนอเข้าและถอนออก มีการปรับน้ำหนักเพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีนัยสำคัญต่อตลาด ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาเป็น Net Buy ที่ 1.5 พันล้านบาท ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ WTI สิ้นสัปดาห์ปิดที่ $53.86 ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มเพียงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา +0.06% WoW

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,585.24 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว +0.14%

มุมมองตลาดระยะสั้น คาดว่าตลาดยังคงมีการแกว่งตัวในระดับ 1,570-1,600 จุด โดยนักลงทุนยังให้ความสำคัญกับการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียน ที่ทยอยประกาศออกมามากขึ้น และเชื่อว่าหากผลประกอบการออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ Set Index ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,600 จุดได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป นักลงทุนควรให้ความสนใจกับประเด็นการเลือกตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 23 เมษายน และวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่พรรค National Front ของ นาง Marine Le Pen ซึ่งมีนโยบายชาตินิยมและต้องการนำฝรั่งเศสถอนตัวออกจาก Euro Zone กำลังได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น และการดำเนินนโยบายบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในประเด็นที่อาจเกิดความขัดแย้งทางสังคมหรือความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ

ภาวะตลาดหุ้นไทย (30 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ SET Index มีการแกว่งตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายก็เบาบางลง เนื่องจากเทศกาลวันหยุดตรุษจีนในหลายประเทศในเอเชีย ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดปรับตัวลงมาจากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีการเซ็นคำสั่งประธานาธิบดีระงับการเข้าประเทศสหรัฐฯของพลเมือง 7 ประเทศมุสลิม ซึ่งทำให้มีความวิตกกังวลว่าอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้นักลงทุนมีการเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง ในขณะที่การประชุม FOMC นั้น ที่ประชุม FOMC มีมติคงดอกเบี้ย Fed Fund Rate ไว้ที่ 0.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ในขณะที่ปัจจัยที่ยังสนับสนุนตลาดอยู่ยังคงเป็นราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดสิ้นสัปดาห์อยู่ที่ $53.83 ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.4% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็น Net Sell 4 พันล้านบาท

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,582.95 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว -0.15%

มุมมองตลาดระยะสั้น คาดว่าตลาดยังมีการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการเก็งกำไรการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียน และการซื้อหุ้นเพื่อรอรับเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2559 ในขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตามอง ยังคงเป็นการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองของประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ

ภาวะตลาดหุ้นไทย (23 – 27 มกราคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนมกราคม SET Index มีการแกว่งตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ โดย SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.78% ขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,600 จุดในช่วงกลางสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 22 เดือน โดยตัวแปรหลักยังคงเป็นราคาน้ำมันดิบที่ยังคงสามารถยืนได้เหนือ $50 ต่อบาร์เรล โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวที่ $52 – $53 ต่อบาร์เรล จากการลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปยังคงต้องติดตามเกี่ยวกับ Stock น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอย่าต่อเนื่องของสหรัฐฯที่อาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาด ในส่วนของนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีการดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงมากขึ้น โดยประธานาธิบดีมีการลงนามการถอนตัวจาก TPP และให้สร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก เพื่อป้องกันแรงงานอพยพ ทั้งนี้ Fund Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างชาติยังคงเป็น Net Sell ที่ 500 ล้านบาท ผู้ซื้อหลักยังคงเป็นสถาบันในประเทศ

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,590.80 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.78%

ในส่วนของมุมมองตลาดระยะสั้น เริ่มเห็นทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากนโยบายการค้าของ Trump และจะมีการประชุม FOMC ในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ทำให้เห็นต่างชาติเริ่มมีการชะลอการลงทุนอีกครั้ง

ภาวะตลาดหุ้นไทย (16 – 20 มกราคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สามของเดือนมกราคม SET Index มีการแกว่งลงเกือบตลอดสัปดาห์ โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดยังคงมาจากปัจจัยต่างประเทศ โดยนักลงทุนมีการขายทำกำไรในตลาดหุ้นก่อนพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยประธานาธิบดีคนใหม่มีการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าประชาชน ประเด็นหลัก ๆ ยังคงเป็นการสนับสนุนการจ้างงานในประเทศ การลดภาษีทั้งระบบ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการกีดกันแรงงานต่างชาติ ซึ่งเป็นนโนบายหลักตั้งแต่ตอนหาเสียง และจากการขายทำกำไรในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนสถาบันในประเทศมีการขายทำกำไรตามออกมาด้วย ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งจะเป็นการขายของกองทุน LTF/RMF ที่ผู้ถือหน่วยไถ่ถอนเมื่อมีการลงทุนครบระยะเวลาเพื่อให้ได้สิทธิทางภาษี นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการผลประกอบการไตรมาส 4 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกำไรสุทธิเติบโตขึ้นตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์ ในการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันเกี่ยวกับความคืบหน้าการลดกำลังการผลิตนั้น จากรายงานพบว่าบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันสามารถลดกำลังการผลิตได้แล้ว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเป้าหมายการลดกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้สิ้นสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $53.22 ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.62% WoW ซึ่งช่วยให้หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นบ้าง

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,562.99 จุด ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว -0.78%

ในส่วนของมุมมองตลาดระยะสั้น ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จากปัจจัยการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามการปฏิบัติตามนโยบายที่เคยหาเสียงของประธานาธิปดีสหรัฐฯในช่วง 100 วันแรกหลังรับตำแหน่ง และความคืบหน้าของ Brexit ที่อังกฤษกำลังเริ่มกระบวนการ

ภาวะตลาดหุ้นไทย (9 – 13 มกราคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม SET Index ผันผวนในกรอบ 1,563- 1,583 จุด โดยสิ้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.24% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนหลัก ๆ ยังมาจากปัจจัยต่างประเทศ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ได้มีถ้อยแถลงในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังคงย้ำนโยบายจากที่เคยหาเสียงหลายประการ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้า ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการชะลอการลงทุนเพื่อรอแนวทางหลังจากการเข้ารับตำแหน่งของ นาย โดนัล ทรัมป์ โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีสถานะ Net Sell เป็นบางวัน อย่างไรก็ตาม สิ้นสัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็น Net Buy ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ มีความสับสนของกำลังการผลิต ทั้งสหรัฐฯและอิรัก มีตัวเลขการผลิตที่มากขึ้น ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม OPEC ที่ได้เริ่มลดกำลังการผลิตตามที่ตกลงกันไว้กว่า 70% โดยตัวเลขจะถูกยืนยันในการประชุมครั้งถัดไป วันที่ 20-21 มกราคมนี้ สิ้นสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $52.37 ต่อบาร์เรล ลดลง 1.14% WoW

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,575.24 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.24%

ในส่วนของมุมมองตลาดระยะสั้น อาจมีการชะลอการลงทุนอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อรอนโยบายหลังจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนาย โดนัล ทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม และการแถลงแนวทาง Brexit ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในวันที่ 17 มกราคม

ภาวะตลาดหุ้นไทย (4 – 6 มกราคม 2560)

ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แรกของปี 2560 ถึงแม้จะเปิดทำการเพียง 3 วันแต่ SET Index ปรับตัวขึ้นได้อย่างน่าพอใจ โดยปรับตัวขึ้นจากระดับ 1,542.94 จุด และปิดสิ้นสัปดาห์ที่ 1,571.48 จุด โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของ SET Index ยังคงมาจากแรงซื้อของกองทุน LTF/RMF จากปลายปีที่แล้วที่ยังคงเหลืออยู่ และจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาเป็น Net Buy ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว และเริ่มสัปดาห์แรกของปี นักลงทุนต่างชาติ Net Buy ทั้งหมดกว่า 7 พันล้านบาท โดยรวมตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามียอด Net Buy แล้วทั้งสิ้นกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยบวกภายในประเทศได้แก่รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคมที่ดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” ที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีของรัฐบาล ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ สิ้นสัปดาห์ปิดที่ $53.90 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.37% WoW จากการรายงานตัวเลขของ EIA ว่า Inventory น้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลงกว่า 7.4 ล้านบาร์เรล และประเทศซาอุฯ เริ่มลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือน มกราคม 4.86 แสนบาร์เรลต่อวัน หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.96% WoW

สิ้นสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1,571.48 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.85%

ในส่วนของมุมมองตลาดระยะสั้น คาดว่าอาจจะมีแรงขาย LTF จากผู้ที่ถือครบกำหนด 5 ปี ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ทำให้เป็นแรงกดดัน SET Index ได้ และการเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม 2560 ที่อาจจะทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนได้